Mindfulness: Try Less | Experience More Lifestyle เรื่องของ “คอยล์” ที่ควรรู้ 

เรื่องของ “คอยล์” ที่ควรรู้ 

บุหรี่ไฟฟ้า

คอยล์นั้นเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญอย่างมากในตัวบุหรี่ไฟฟ้า Pod System ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการบุหรี่ไฟฟ้าที่ไหนก็ตามการซื้อบุหรี่ไฟฟ้า กทมใช้งานดีนอกกทมก็จัดส่ง หรือ การซื้อจากที่อื่นก็ตาม นั้นเรื่องของ “คอยล์” นั้นมีความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ “คอยล์” กันดีกว่านะครับว่าคอยล์นั้นจะมีเรื่องอะไรที่เรานั้นจะรู้บ้าง และ เรื่องอะไรบ้างที่เรานั้นควรรู้บ้างในเรื่องของ “คอยล์” 

คอยล์นั้นสามารถใช้งานได้นานหรือไม่ 

Pod System นั้นเป็นอีกหนึ่งใน Pod ยอดนิยมอย่างมากด้วยเช่นกัน และ คอยล์ของบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน โดยจากการใช้งาน และ การเก็บสถิตินั้นคอยล์สูงสุดนั้นสามารถที่จะใช้งานได้ 2-4 อาทิตย์ แต่ว่าในการใช้คอยล์ได้สูงสุดถึง 1 เดือนนั้นจะต้องดูแลรักษาคอยล์ให้ดีอย่างมาก และ ไม่มีการสูบแบบ DTL หรือ Direct To Lung ซึ่งจะเป็นการสูบแบบลากยาวซึ่งคอยล์ของ Pod System นั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการสูบแบบนั้นจึงทำให้การสูบ DTL นั้นมีโอกาสที่จะทำให้คลอย์เสียได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคลด้วยเช่นกัน 

น้ำยาที่หวานจะทำให้คอยล์พังได้เร็ว 

อีกเรื่องที่สำคัญที่เรานั้นอาจจะยังไม่รู้นั้นคือในเรื่องของ การเลือกใช้น้ำยา เพราะว่าไม่ว่าเราจะเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ไหนก็ตามไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้า กทม หรือ จากการสั่งออนไลน์ เองก็ตามการที่เลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่หวานนั้นจะทำให้คอยล์ของเรานั้นพังได้เร็วขึ้น เพราะว่าทุกครั้งที่เรานั้นกดสูบ ความร้อนจากการระเหยนั้นจะส่งผลให้นำตาลภายในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ในเเทงก์น้ำยานั้นเกาะไปที่สำลี และ เมื่อเวลาผ่านไปนานสีของน้ำยาก็จะเปลี่ยนไปจากน้ำตาลที่เกาะในสำลีนั้นเอง

คอยล์ 1 ตัว น้ำยากลิ่นเดียว

เมื่อเรานั้นเปิดคอยล์ตัวไหนก็ตาม ให้เรานั้นใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเพียง รสเดียวเท่านั้นไม่ควรที่จะใช้คอยล์ 1 ตัว กับน้ำยาที่หลากหลายเพราะว่าไม่อย่างนั้นการที่ใช้น้ำยาในกลิ่นที่หลากหลายนั้นจะทำให้กลิ่นของน้ำยาแต่ละกลิ่นนั้นตีกันจนเราไม่ได้รับรสชาติน้ำยาที่ถูกต้อง ซึ่งรวมทั้งน้ำตาลที่เกิดจากการเผาไหม้นั้นอาจจะติดคอยล์อยู่ด้วย และ เมื่อเราใส่น่ำยาเพิ่มเข้าไปก็อาจจะทำให้กลิ่นของน้ำยาตัวใหม่ที่เราใส่เข้าไปเพี้ยนได้อีกด้วยดังนั้น คอยล์ 1 ตัว น้ำยาตัวเดียวจะช่วยตอบโจทย์เราอย่างมาก และ เป็นถนอมคอยล์ด้วยเช่นกัน 

ล้างเเทงค์ก่อนใช้งาน 

อีกเรื่องนั้นคือในเรื่องของความสะอาดอย่าง Pod ที่มีการคอยล์ แยก ออกมาจากเเทงก์น้ำยา ในทุก ๆครั้งที่เรานั้นจะเปลี่ยนคอยล์ นั้นให้เรานั้นทำความสะอาดไว้ก่อนเพราะว่าหากว่าเราเปลี่ยนคอยล์และไม่ทำความสะอาดแทงก์ก็อาจจะทำให้กลิ่นของน้ำยาจากคอยเดิม หรือ คราบน้ำตาลที่มีการระเหยไปเกาะตามแทงค์นั้นส่งผลให้คอยล์ตัวใหม่ของเรานั้นรีดรสได้ผิดเพี้ยนนั้นเอง 

ใช้แค่ไหนก็เติมเท่านั้น 

ถ้าหากว่าเรานั้นเป็นคนที่เติมน้ำยาบ่อย ๆ และ สูบไม่หมดนั้นจะส่งผลเสียอย่างมาก เพราะว่าถ้าหากว่าเติมเผื่อสูบ และการเติมน้ำยาข้ามวัน ข้ามคืน นั้นจะส่งผลสีน้ำยานั้นเปลี่ยนไปและทำให้น้ำยาเก่าเกิดตะกอน ทำให้การรีสรส และ กลิ่นของคอยล์นั้นผิดเพี้ยนเอาได้ด้วยเช่นกัน 

ดังนั้นในเรื่องของคอยล์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก และ เรานั้นไม่ควรที่จะมองข้ามเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคอยล์ของเรานั้นอาจจะมีอายุที่ไม่ยืนเอาได้นะครับ

Related Post

ประตูรั้วอิตาลีแบบบานเปิด แตกต่างจากบานเฟี้ยม อย่างไร ประตูรั้วอิตาลีแบบบานเปิด แตกต่างจากบานเฟี้ยม อย่างไร 

ประตูรั้วอิตาลี เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในอดีตได้รับความนิยมทางฝั่งยุโรป แต่ปัจจุบันนั้นประเทศไทยของเรานิยมประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีกันมากขึ้น ไม่ใช่ความสวยงามแต่ยังมีเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย วันนี้เราจะพามาดูความแตกต่างระหว่างประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีแบบบานเปิดกับประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีแบบบานเฟี้ยม มาดูกันว่าทั้ง 2 แตกต่างกันอย่างไรและเลือกติดตั้งแบบไหนให้เหมาะสมกว่า  ประตูรั้วอิตาลี คืออะไร  เหล็กดัดอิตาลีเป็นเหล็กที่มีคาร์บอนต่ำ มีการควบคุมปริมาณออกซิเจนในเหล็กให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดสนิมเป็นเหล็กที่มีความแข็งแรงทนทานและมีความเหนียว การติดตั้งประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีนั้นสามารถทำได้หลายแบบ โดยแบบที่ได้รับความนิยมคือแบบบานเปิดกับแบบบานเฟี้ยม  แบบบานเปิด  ประตูรั้วอิตาลีแบบบานเปิด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบานสวิง ประตูรั้วที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ โดยประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีบานเปิดด้านเดียวมักนำมาใช้กับประตูทางเข้าด้านข้างบ้านเปิดได้แค่ทางเดียวสำหรับประตูรั้วหน้าบ้านจะใช้ประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีแบบบานเปิดคู่ ทำให้บ้านมีความหรูหราอลังการเหมาะสำหรับบ้านหลังใหญ่หรือคฤหาสน์  แบบบานเฟี้ยม  ประตูเหล็กดัดอิตาลีแบบบานเฟี้ยม ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันเป็นการนำเอาประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลีบานเล็กๆ มาต่อกันลักษณะคล้ายบานพับเมื่อเปิดใช้งานประตูจะซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ สามารถพับเก็บได้สะดวก พับเก็บได้ทั้ง 2 ด้าน

อุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่จำเป็นต้องใช้ในทริป

ข้อควรรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับมือใหม่ข้อควรรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับมือใหม่

เมื่อเริ่มเข้าใจและสนุกกับการไปแคมป์ปิ้งแล้วสิ่งถัดที่เหล่านักแคมป์ปิ้งทำคงจหนีไม่พ้นการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ด้วยอุปกรณ์แคมป์ปิ้งมีหลากหลายและต้องเตรียมหลายอย่างวันนี้เลยมีทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดไปแคมป์ปิ้งได้ลองทำตามกันดู เพื่อให้ได้อุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่ต้องการครบถ้วนและคุ้มค่ามากที่สุด  ทริคเลือกซื้อและเลือกใช้อุปกรณ์แคมป์ปิ้งให้คุ้มค่า 1.สำรวจและตรวจสอบว่าในการออกทริปครั้งนี้ต้องใช้อะไรบ้าง  เมื่อกำหนดการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงการคำนวณว่าต้องการใช้อุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่จำเป็นต้องใช้ในทริปนี้ประกอบด้วยอะไรบ้างมีบริมาณเท่าไหร่ ตรวจสอบมาให้หมดเผื่อกันการตกหล่น และจะได้ประมาณการณ์คร่าวๆ ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ได้อีกด้วย  2.จำแนกสิ่งของและอุปกณณ์แคมป์ปิ้งที่ต้องการใช้ออกเป็นหมดหมู่  เพื่อ่ให้ง่ายต่อการตรวจเช็คจัดสิ่งของที่ต้องการออกเป็นหมวดหมู่ และสังเกตุดูว่ามีสิ่งไหนสามารถทดทนอุปกรณ์แคมป์ปิ้งหรือสิ่งของที่เราต้องการใช้ได้มั้ย ไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด นอกจากจะช่วยประหยัดแล้ว ยังไม่ต้องสั่งของมาให้ค้างเพิ่มเติมอีกด้วย  3.เปรียบเทียบคุณภาพของอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง   ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรพิจารณาว่าของเหล่านั้นมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการหรือไม่ เปรียบเทียบสินค้าหลากหลายหี่ห้อเพื่อหาอันที่ดีที่สุด  4.ตรวจสอบวัสดุที่ใช้และการรับประกันสินค้า  นอกจากคุณสมบัติต่างๆที่ต้องการแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรตรวจสอบให้ละเอียดก็คือวัสดุที่นำมาผลิตทนทานหรือไม่ จะส่งผลอันตรายกับเราและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ รวมไปถึงต้องดูการรับประกันของสินค้านั้นๆ อีกด้วยเพื่อปกป้องสิทธิและเพื่อหาสินค้าที่ดีสำหรับเราที่สุด  5.ราคาของสินค้า  ราคาของสินค้าและอุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่ซื้อต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม

GrabExpress

GrabExpress บริการขนส่งสินค้าแบบเร่งด่วนที่รวดเร็วทันใจGrabExpress บริการขนส่งสินค้าแบบเร่งด่วนที่รวดเร็วทันใจ

การขนส่งสินค้าแบบ GrabExpress เป็นการส่งแบบเร่งด่วนที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบความรวดเร็วในการดำเนินการส่งสินค้างและต้องการให้ของที่จัดส่งถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เหมาะกับคนที่เร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งแบบธุรกิจหรือส่งด้วยเรื่องส่วนตัว หากต้องการความรวดเร็วที่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวันก็สามารถส่งภายในจังหวัดหรือข้ามจังหวัดไปยังที่หมายได้ ในบทความจะมากล่าวถึงบริการส่งสินค้าในรูปแบบGrabExpress ให้ทุกคนได้รู้จัก บริการ GrabExpress ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ สำหรับการบริการขนส่งสินค้าแบบGrabExpressที่สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้านั้น สามารถกล่าวได้ดังต่อไปนี้ การขนส่งมีความรวดเร็วเนื่องจากเป็นการส่งสินค้าแบบเร่งด่วนที่ใช้เวลาในการรับของจากรถขนส่งแค่ 10 นาที ซึ่งใช้เวลาการจัดส่งแค่ 40 นาทีก็ถึงที่หมาย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ภายในระยะทาง 15 กิโลเมตร เวลาของการรับส่งพัสดุหรือเอกสารนั้นจะดำเนินการทุกเวลาและทุก ๆ ที่ มีราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งมาตรฐานของราคาที่คำนวณระยะทางในการจัดส่งนั้นจะเริ่มต้นที่เงินจำนวน 36 บาท การบริการสามารถไว้ใจได้